Pat

 เรามีธุระที่ต้องไป Abu Dhabi และ Dubai ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2024

เราเลือกบินไปลง Abu Dhabi เพราะว่าธุระที่ต้องทำอยู่ใน Abu Dhabi มากกว่า

ดังนั้นเราเลยเลือกใช้บริการของสายการบิน Etihad เพราะเป็นสายการบินที่บินตรงไปลง Abu Dhabi

ปกติแล้วเราใช้สายการบิน Emirates มากกว่า แต่มันมีแต่บินไปลงที่ Dubai


ดังนั้นตัวเลือกสำหรับวีซ่าของคนไทยแบบเราคือ

  1. ทำวีซ่าผ่าน Etihad
  2. ทำ e-visa ผ่านตัวแทนต่างๆ
ด้วยความที่ Abu Dhabi และ Dubai อยู่ใน UAE จึงใช้วีซ่าเดียวกันได้

ตอนแรกเราเลือกจะทำวีซ่าผ่านเว็บไซต์ของ Etihad เป็นอันดับแรก
แต่ว่าเว็บไซต์มันมีปัญหาที่หน้าจ่ายเงิน แจ้ง support ก็แล้ว โดยเป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ด้วย
แล้วก็ทาง support บอกว่าจะโทรกลับ แต่ก็ไม่มีการโทรกลับ
เป็นแบบนี้มา 3 สัปดาห์ ไม่มีการแก้ไขใดๆ



สรุป เราเลย search ข้อมูลตัวแทนที่จะทำวีซ่าให้เราได้
โดยตัวแทนเนี่ย จะต้องอยู่ใน UAE เท่านั้น ต่อให้เรา search เจอบริษัทไทยที่รับทำ
บริษัทไทยเหล่านี้ก็ต้องไปจ้างตัวแทนที่อยู่ใน UAE เพื่อทำวีซ่าให้เราอีกทอดหนึ่งอยู่ดี
ดังนั้นเลยเลยเลือกที่จะติดต่อกับตัวแทนใน UAE โดยตรง




เราเจอหน้าเว็บไซต์ของ skyscanner ที่มีอ้างอิงถึงตัวแทนที่รับทำวีซ่า
นั่นก็คือหน้านี้ https://www.skyscanner.co.th/news/how-to-apply-dubai-visa
skyscanner อ้างอิงถึงเว็บไซต์ตัวแทนนี้ค่ะhttp://www.raynatours.com/
เราก็เลยตามไปทำวีซ่าที่นี่
วีซ่าที่เราของไปอีก วีซ่าท่องเที่ยวแบบเดินทางเข้าประเทศครั้งเดียว (single entry visa)
ตัวแทนนี้คิดเงินเราอยู่ที่ AED 425 ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับที่สายการบิน Etihad คิดเงินเรา
แต่ตัวแทนเจ้านี้ตอบข้อความเร็วใช้ได้ ให้ข้อมูลครบ ไม่มีหมดเม็ด
เขาแจ้งละเอียดว่า เอกสารที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ระยะเวลาในการทำวีซ่ากี่วัน
ดังนั้น เราแนะนำให้ทำเจ้านี้ค่ะ
ปล. เราไม่ใช่ affiliate แต่อย่างใด เราแค่เป็นลูกค้าที่ผิดหวังกับการบริการของ Etihad มากๆ
ดังนั้นเราจึงอยากเล่าทางเลือกในการทำวีซ่าจากตัวแทนที่มีความรับผิดชอบค่ะ

เอกสารที่ตัวแทนเจ้านี้ขอคือ
  1. ตั๋วเครื่องบินไปกลับ
  2. ภาพแสกน passport หน้าหลัง และหน้าที่มีรายละเอียดของผู้เดินทาง ไม่ต้องแสกนทุกหน้า
  3. เอกสารการจองโรงแรม เราใช้เอกสารของ Air BNB
  4. ภาพถ่าย เราใช้ขนาด 600x600 px ฉากขาว ให้เห็นใบหูสองข้าง เหมือนวีซ่าอเมริกาค่ะ
เพื่อนเราเจอเว็บไซต์ตัวแทนอื่นๆ ที่ดูเป็น scammer ด้วยค่ะ
เพราะฉะนั้นต้องระวัง บางเว็บไซต์มีการระบุว่าคนที่ถือสัญชาติแคนาดาก็ต้องทำวีซ่า
ซึ่งจริงๆแล้วไม่ต้องทำ พอเจอเว็บไซต์แบบนี้ เราก็ไม่กล้าจะทำวีซ่าด้วย
เพราะโกหกตั้งแต่ยังไม่เริ่มสอบถามรายละเอียดเลย
ดังนั้น อยากให้ใจเย็นๆ ค่อยๆหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ตัวแทนต่างๆนะคะ

สำหรับประสบการณ์ในการใช้บริการกับ Etihad ครั้งนี้ เราจะให้มันเป็นครั้งสุดท้าย
เราคงจะไม่ญาติดีกับ Etihad อีกแล้ว
อนาคตถ้าต้องเดินทางไป Abu Dhabi ก็จะเลือกบิน Emirates ไปลง Dubai แล้วต่อรถบัสเข้า Abu Dhabi แทนค่ะ

 ตอนนี้กำลังทำเรื่องขอวีซ่า Digital Nomad ของประเทศมาเลเซีย (De Rantau) เพราะเราทำงานแบบไม่ต้องเข้าออฟฟิศเลย เราเลยอยากหนีจากอากาศ​ที่มี PM2.5 ของ กทม. แล้วมาเลเซียก็เป็นอีกประเทศที่อยู่ใกล้ประเทศไทย บินไปกลับเหมือนไปภูเก็ตเท่านั้นเอง เราเลยจะลองยื่นวีซ่าประเภทนี้ดู

โดยระยะเวลาสูงสุดที่วีซ่าที่จะได้คือ 12 เดือน และขั้นต่ำ 3 เดือน โดยเป็น multiple entry ดังนั้นเราจะกลับไทยเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งตรงนี้ต่างจากวีซ่าประเภท 3 เดือนของมาเลเซีย เพราะวีซ่าท่องเที่ยวแบบนี้จะอยู่ในมาเลเซียได้สูงสุด 90 วัน และเป็น one entry ดังนั้นถ้าเราบินออกจากมาเลเซีย วีซ่านั้นจะหายไป

เอกสารที่ต้องใช้

  1. Passport all pages (minimum of 6 empty pages)
  2. Latest Resume
  3. Latest 3 months bank statement and yearly income statement
  4. Employment Contract
  5. Letter of good conduct (issued by authority body in respective country or current residence) or Statutory Declaration form
เอกสารอื่นๆเพิ่มเติม Others (Mandatory if Applicable)

  1. Health / Travel insurance policy cover -- Travel/Health insurance must be valid in Malaysia and must be covering you (and all your family members). -- You may upload the health/travel insurance policy cover now or after the application has been approved.
  2. Highest Educational Certificates
  3. Copy of accolades or awards received
  4. 3 months payslip

ค่าใช้จ่าย
  1. ค่าสมัคร 1000 ริงกิต
  2. ค่าใช้จ่ายเพื่อให้ MDEC เป็น sponsor เพราะเราไม่ได้มีนายจ้างในมาเลเซีย 200
  3. ค่าธรรมเนียม 90 ริงกิตต่อ 3 เดือนสำหรับ immigration ซึ่งไม่เกี่ยวกับค่าสมัคร 1000 ริงกิต
ปัญหาที่เจอ
เราเจอปัญหาที่ไทยมากกว่า ปกติเวลาคนไทยไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือย้ายภูมิลำเนาตามครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ เราจะได้แบบฟอร์มมาเพื่อไปขอเอกสารรับรองความประพฤติจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานใหญ่) โดยอยู่ในแผนกที่เป็นเอกสารสำหรับสถานทูต แต่ว่าเราเคยไปขอ ในเคสเราคือไม่มีแบบฟอร์ม ดังนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เราไปขอเป็นภาษาไทยที่ใช้ในการสมัครงานที่ประเทศไทยแทน จากนั้นเราต้องเอาไปแปล เสียค่ารับรองเอกสาร ซึ่งวิธีนี้เราก็ไม่รู้อีกว่ามันสามารถใช้ได้หรือเปล่า

เราก็เลยใช้วิธีบินมาที่มาเลเซีบ เพื่อให้กระทรวงต่างประเทศออกเอกสารให้ แต่เรายังไม่รู้ผลเหมือนกันว่า เราสามารถใช้เอกสารนี้ได้หรือเปล่า https://www.kln.gov.my/

เดี๋ยวถ้าเราได้รับการตอบรับ เราจะมา upadate อีกครั้ง

เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่
https://mdec.my/derantau/foreign

 

I didn’t expect Halloween would be this fun in New York. I only saw videos on Youtube about the parade, but I didn’t feel the vibe. It’s actually really fun. People are in party mood. 

Cili Kampung Fish Curry

I do not like Malaysian food that much, but Cili Kampung is exceptional. This is the only Malaysian restaurant I can call delicious.
 





Yesterday after seeing my dentist, I had lunch at Maruki Ramen for the first time. It was delicious though. My expectation was lower, but the soup exceeded my expectation a lot. The beed and the noodle were normal ramen, but good quality. The only thing I did not like was the ramen and the beef were cold. I understand the restaurant had to pre-cook everything, but they should have heated everything before serving. Not only this restaurant, many other restaurants in Malaysia are the same.

 คืนวันศุกร์


Finally I got accept to Stern NYU.

Next PostNewer Posts Previous PostOlder Posts Home